[SEO] โปรโมท Website ง่ายๆด้วย H1 Tag

ช่วงนี้ยุ่งๆกับงานใหม่นิดหน่อย เปลี่ยนงานมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์กว่า เริ่มจะปรับตัวได้ล่ะ

พร้อมทั้งได้เวลาเพิ่มขึ้นเยอะพอสมควร ก็อยากจะหารายได้เสริมด้วยงานที่อยากทำที่สุดตอนนี้

งานนั้นก็คือ "เขียนบทความ" ก็รับมา Job หนึ่ง แต่ทว่า.....

มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแฮะ โดน ตีกลับ... ก็เลยขอถอนตัวออกมาก่อน แต่ไม่ได้ยอมแพ้หรอกน่ะ

แค่กลับมาตั้งหลัก ฝึกซ้อมให้เยอะกว่านี้ก่อน

บทความนี้ก็เป็นบทความหนึ่งที่เขียนทิ้งไว้ก่อนส่งเป็นบทความที่เขาอยากได้ไปส่งลูกค้า แต่ไหนๆก็ไม่ได้ขายแล้วก็เอามาแบ่งปันเพื่อนๆ เลยก็แล้วกัน

เพื่อนๆที่อ่านแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรก็แนะนำกันด้วยนะครับ FฺB Comment ด้านล่างยินดีต้อนรับ

จริงๆมี เพื่อนที่เข้ามาใน Facebook Page อยากจะอ่าน IT Security แต่ยังเขียนไม่เสร็จรอก่อนน่ะค้าบบ

*http://cozywp.com/wp-content/uploads/2014/05/h1.jpg

โปรโมท Website ง่ายๆด้วย H1 Tag

            หากคิดว่า H1 Tag ไม่มีความสำคัญแล้วละก็อาจจะคิดผิดก็ได้ เพราะในการทำ SEO ให้ติดอันดับใน Google นั้น H1 Tag เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำให้เว็บไซต์SEO สามารถดันขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้

            H1 Tag หรือ <H1> … </H1> เป็น Tag กำหนดขนาดของหัวข้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มันจะแสดงผลในหน้าเว็บไซต์ เป็นการบอกผู้ค้นหาหรือแม้กระทั่ง Google เอง  ให้รู้ว่าเว็บไซต์นี้เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ดังนั้นเวลากำหนดหัวข้อบทความ ควรจะกำหนดเอาไว้ช่วงต้นๆของเว็บไซต์ ด้วยการกำหนดหัวข้อแบบ H1 Tag เพื่อความเด่นชัดของชื่อเรื่อง

           

          โดยปกติแล้วโปรแกรมของ Google จะอ่าน H1 Tag เพื่อนำไปจัดอันดับ SEO โดยจะเลือก H1 Tag ก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ ในขณะที่บางคนใช้ H2 – H6 Tag แทนที่จะใช้ H1 Tag โดยอาจจะกังวลเรื่องขนาด สาเหตุอาจจะเกิดจากดังต่อไปนี้

1.      ขนาดของ H1 Tag ใหญ่เกินไปต้องการปรับขนาดให้ดูสวยงาม

2.      ไม่ทราบว่า H1 Tag ทำ SEO ได้

3.      ไม่ได้ต้องการทำ SEO

4.      รู้จัก H1 Tag น้อยเกินไป

นอกจากนี้อาจจะปรับขนาดด้วยวิธี Fontsize ซึ่งบางคนอาจจะไม่ทราบนำมาใช้ปรับขนาดโดยเสียโอกาสในการทำ SEO ไป

           

สิ่งที่ควรทำเมื่อใช้ H1 Tag

1. ใส่ H1 Tag ลงไปในทุกๆหน้าของเว็บไซต์อย่างน้อย 1 ครั้ง แนะนำว่าให้ใส่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นไม่เช่นนั้น Google เกิดความสับสนขึ้นได้เพราะมีหลายหัวข้อ ทำให้ไม่รู้ว่าจะเอาหัวข้อไหนไปแสดงผล ซึ่งในกรณีที่จำเป็นต้องใส่หัวข้อลงไปในหน้าเดียวกันจริงๆ ก็แนะนำว่าให้แบ่งเป็นสองหน้าไปเลย

2.  เขียนข้อความลง H1 Tag ให้มีความสัมพันธ์กับ Title Tag จะเป็นการเพิ่มพลังในการค้นหาให้ดียิ่งขึ้น จากอันดับของการค้น สองตัวนี้แหละที่สำคัญกว่าใครเป็นไหนๆ

3.  ใช้ประโยคง่ายๆที่สามารถเข้าใจได้ง่าย มาทำเป็นหัวข้อเรื่อง เพราะจะช่วยให้ทั้งผู้ค้นหา และ Google เข้าใจแล้วตัดสินใจ Click เข้ามาอ่านในทันที

ไม่ควรทำในการใช้ H1 Tags

1. ห้ามใส่ H1 Tag ที่ซ้ำกันในทุกๆเพจ เพราะจะทำให้ Google ไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นคนละหน้ากัน และจะเกิดความสับสนของการค้นหา

2.  ห้ามใส่ H1 Tag มากกว่า 1 ครั้งใน เพจเดียวกัน เพราะจะทำให้ Google สับสนอีกเช่นกัน และยังถูก Google มองว่าเป็น Spam อีกต่างหาก

3.  พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ระบบบริหารจัดการเว็บไซต์ เพราะมันจะจัดการ H1 Tag เพียงจุดๆเดียว ทำให้ทุกๆเพจมีหัวข้อที่เหมือนๆกันทำให้ Google สับสนได้ ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้เข้าไปแก้ที่ Code เลย

สรุปว่า

            H1 Tag มีความสำคัญรองลงมาจาก Title Tag ซึ่งมีความสำคัญในการจัดอันดับ SEO ควรมีไว้เป็นชื่อหัวข้อหลักของแต่ละเพจ จะทำให้พลังในการค้นหาเพิ่มมากขึ้นดังนั้นหากใครที่อยากให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก และติดอันดับการค้นหาไปนานๆ รีบกลับไปดูเว็บไซต์ของตัวเองซะว่ามี H1 Tag หรือยัง

REF: 

https://www.v9seo.com/blog/2015/01/08/title-tags-vs-h1-headers-whats-difference/

https://moz.com/search-ranking-factors/survey

https://www.v9seo.com/blog/2015/10/29/the-dos-and-donts-to-using-header-tags-for-seo/

[HACKER NEWS] Hacker เด็กชาวรัสเซียทำแสบขโมยอีเมล์สำคัญๆนับล้านฉบับ แชร์ลงบนโลกออนไลน์ - (แปล)

http://cdn1.tnwcdn.com/wp-content/blogs.dir/1/files/2016/04/shutterstock_313805942_Hackers-796x398.jpg

Millions of stolen email credentials shared online by Russian hacker

ถูกขโมยสะสมเอาไว้จนถึงปัจจุบันใน รัสเซียจำนวน 1.17 ล้านฉบับ security company กล่าว

จำนวนประมาณ 10 ล้านฉบับ ส่วนหนึ่งเป็นอีเมล์ที่สำคัญๆของบัญชี Gmail ,Microsoft และ Yahoo ได้ถูกแชร์ลงบนโลกออนไลน์ โดยเด็กชาวรัสเซียที่รู้จักกันในนามว่า “นักสะสม” สะสมจนได้ 1.17 ล้านฉบับเลยทีเดียว

กล่าวตามที่ บริษัท Hold Security ว่าไว้ ถูกมองไว้มากกว่า 272 ล้านฉบับที่มีบัญชีไม่ซ้ำกัน ประกอบไปด้วย 42.5 ล้านฉบับ ไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนใหญ่ของบัญชีที่โดนขโมยตามข่าวที่ว่ามา ถูกขโมยมาจาก Mail.ru ซึ่งชาวรัสเซียส่วนใหญ่มักจะใช้บริการ ซึ่งแสดงข้อมูลการให้บริการอื่นๆอย่างชัดเจนเป็นส่วนประกอบ

ซึ่ง Hold security ได้ค้นพบต้นตอของช่องโหว่ คือนักวิจัยบนโลกออนไลน์ได้ทำตัวเป็น hacker มาลงกระทู้ขายอีเมล์ แลก 50 รูเบิลสำหรับอีเมล์ที่สะสมไว้ 10GB ให้กับเด็กที่อยากหัดเป็น hacker เพื่อแลกกับชื่อเสียงที่จะให้คนอื่นมาชื่นชมใน social media

40 ล้านฉบับ จาก yahoo 33 ล้านฉบับ จาก Hotmail 24 ล้านฉบับ จาก Gmail และอีก 57 ล้านจาก mail.ru และยังมีเมล์ที่มาจากที่อื่นๆอีกเช่น ลูกจ้างบริษัท ธนาคาร โรงงาน ที่มาจากผู้ให้บริการอีเมล์ในจีนและเยอรมัน ส่วนนี้ RUATER กล่าว

ในข้อความของอีเมล์ Google ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมทั้งยังแนะนำให้ตั้งค่าเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ Reset บัญชีอีกด้วย ส่วน yahoo, Microsoft, mail.ru ไม่มีความคิดเห็นใดๆต่อเรื่องนี้

REF: http://www.computerworld.com/article/3066540/security/millions-of-stolen-email-credentials-shared-online-by-russian-hacker.html

[SECURITY NEWS] เหล่าสาวกเตรียมดีใจได้ CISCO ออก Security Update - (แปล)

http://visiontrainingsystems.com/wp-content/uploads/2013/12/cisco-security1.jpg

ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2559

บริษัท Cisco ได้ออก security update เพื่อปิดช่องโหว่หลายผลิตภัณฑ์ หวังป้องกันผู้ต้องการผลประโยชน์จากช่องใดช่องหนึ่งโดยการเปิดช่องให้ผู้โจมตี รีโมท เข้ามาควบคุมระบบทำให้เกิดผลกระทบได้

องค์กร US-CERT ได้สนับสนุนให้ผู้ใช้ทั่วไปและ ผู้ดูแลระบบ เข้าไปใช้ อัพเดทตามความจำเป็นได้ที่ ลิ้ง ด้านล่างนี้

• Cisco FirePOWER System Software Packet Processing Denial of Service Vulnerability
• Cisco Adaptive Security Appliance with FirePOWER Services Kernel Logging Denial of Service Vulnerability
• Cisco TelePresence XML Application Programming Interface Authentication Bypass Vulnerability

อ่านเต็มๆได้ที่ : Cisco Releases Security Updates

REF : http://www.itsecuritynews.info/2016/05/04/cisco-releases-security-updates-5/

[HACKER NEWS] แย่แล้ว Ransomware รุกหนักแม้กระทั่ง ผู้ให้บริการไฟฟ้าและประปาก็ยังโดน - (แปล)

Ransomware Virus Shuts Down Electric and Water Utility

ที่พาดหัวข่าวต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่บ้านเราน่ะ แต่เป็นที่อเมริกาต่างหาก ฮ่าๆ ใจเย็นๆ

นับวันเจ้า Ransomware จะยิ่งหนักข้อขึ้นทุกวัน เพื่อนๆคงรู้จักเจ้าไวรัสชนิดนี้กันเป็นอย่างดี

อย่างน้อยก็บางคน อย่างเพื่อนของผมเอง ก็โดนมาแล้ว

เป้าหมายโจมตีของ ransomware คือ บริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจและคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป 

แม้กระทั่งโรงพยาบาลก็โดนมาแล้ว โดยการขู่เข็ญไปหลายล้านดอลลาร์เลยที่เดียว

โดยเป้าหมายของ ransomware แต่ละชนิดจะโจมตีเหยื่อด้วยการเข้ารหัสไฟล์ต่างๆในเครื่องคอมพิวเตอร์

ความต้องการของเจ้า ransomware นี่ก็คือเงินดิจิทัลที่เรียกว่า bitcoin ประมาณ 500$ แลกกับ keyในการถอดรหัส

ให้เดากันว่าอะไรคือเป้าหมายต่อไปของเจ้าไวรัสอันร้ายกาจตัวนี้

เป้าหมายของมันก็คือ ทุกๆอย่างที่ต่อกับอินเตอร์เน็ท 
ฟังแล้วเริ่มน่ากลัวกันแล้วใช่มั้ยครับ

ก็เพราะว่ามีความเป็นไปได้ที่เป้าหมายจะโดนโจมตีในวงกว้าง ผู้ที่ทำธุรกิจให้บริการ Internet of thing เกี่ยวกับรถยนต์เผยว่ามีโอกาสที่จะถูก ผู้ไม่หวังดีปล่อยเจ้า ransomware เข้ามาในระบบ

เมื่อไม่นานมานี้ กรรมการผู้ถือหุ้นของ องค์กร the American public utility Lansing Board of Water & Light (BWL) ได้ออกมาประกาศว่าถูกเจ้า ransomware นี้โจมตีเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ภายในขององค์กร

เพราะว่าอาทิตย์ก่อน ก่อนที่จะถูกโจมตีพนักงานขององค์กรได้เปิดอีเมลล์ที่แนบไฟล์ไวรัสนี้มาด้วยนั่นเอง

แค่เพียงคลิ้กเดียวก็ทำให้มัน ติดตั้งตัวเองทันทีบนระบบ และทำการเข้ารหัสไฟล์ขององค์กรอย่างรวดเร็วตามข่าวจาก the Lansing State Journal.

BWL จึงตัดสินใจระบบ network และหยุดให้บริการบางบริการทันที ซึ่งประกอบไปด้วย ฝ่ายบัญชีและ อีเมลล์เซิร์ฟเวอร์ของพนักงานประมาณ 250 คน เพื่อป้องความเสียหายที่อาจจะเพิ่มขึ้น โดยปิดระบบไฟฟ้าและน้ำประปาเป็นการชั่วคราว

แม้ว่ายังคงไม่มีใครทราบชนิดของเจ้า ransomware ตัวนี้ เจ้าหน้าที่ของเอฟบีไอก็ยังคงเร่งทำงานออกกฎบังคับและสืบสวนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อีกกระทั่งองค์กรได้มั่นใจว่าไม่มีข้อมูลบุคคลของลูกค้าหรือเจ้าหน้าที่คนไหน ทั้ง 96000 คน ถูกเจ้า ransomware ที่เข้ามาบุกรุกในระบบถูกโจมตีเลยแม้แต่คนเดียว

ถึงแม้อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีความแน่ชัดว่า จะจ่ายเงินให้กับ ransomware เพื่อแลกกับข้อมูลการถอดรหัส

องค์กรนี้ได้กล่าวว่าจะเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายไม่สามารถเปิดเผยได้แม้แต่กระทั่งตอนนี้ก็ตาม

Ref: http://thehackernews.com/2016/04/power-ransomware-attack.html